วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555

A-b-o-u-t m-e


ชื่อนายจีรวัสส์ จรัสวรีสิน ม.4/2 เลขที่24

"Romanee Conti" 1945

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

My friend's blog (M.4/2)

No.01 :
No.02 : http://freewab42.blogspot.com/
No.03 : http://toollyahri.blogspot.com/
No.04 : http://peatarn.blogspot.com/
No.05 : http://pompampkppf.blogspot.com/
No.06 : http://nujunenongnapas.blogspot.com/
No.07 : http://lookmaii0009.blogspot.com/
No.08 :
No.09 : http://maprangmycomputer.blogspot.com/
No.10 : http://tosaygoodbyetoyesterday.blogspot.com/
No.11 : http://freewebsite0012.blogspot.com/
No.12 : http://game22223.blogspot.com/
No.13 : http://supermakebam.blogspot.com/
No.14 : http://ponglist.blogspot.com/
No.15 :
No.16 : http://jenjira123.blogspot.com/
No.17 : http://pimonpakchok.blogspot.com/
No.18 : http://kfjgo.blogspot.com/
No.19 : http://kaewsr.blogspot.com/
No.20 : http://4220-120703.blogspot.com/
No.21 : http://paitong4x400m.blogspot.com/
No.22 : http://with-me-love.blogspot.com/
No.23 : http://ing789.blogspot.com/
No.24 : http://ttdialogue.blogspot.com/
No.25 : http://ningpassword.blogspot.com/
No.26 : http://freeweb4226.blogspot.com/
No.27 : http://somoo13.blogspot.com/
No.28 : http://usapetch.blogspot.com/
No.29 : http://tew4229.blogspot.com/
No.30 :
No.31 : http://pupon123.blogspot.com/
No.32 : http://buddyyyyy.blogspot.com/
No.33 :
No.34 :
No.35 : http://carcap.blogspot.com/ 
No.36 :
No.37 :
No.38 : http://yungkaoaboutme.blogspot.com/
No.39 :
No.40 :

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

The Fourth diary in my blog (4th present version : 17/9/12)

วันจันทร์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ.2555
          วันนี้ไปโรงเรียนสาย แต่ก็ไม่ใช่เพราะว่าตื่นสายหรอกนะคับ เพราะมัวแต่ดูทีวีไปกินข้าวไปเลยช้าต่างหากล่ะคับ แต่ก็ไปถึงก็ไม่ถือว่าสายมาก เหมือนมีความรู้สึกว่าเป็นปรกติอยู่แล้วมากกว่านะครับเพราะไปโรงเรียนก็ประมาณเนี้ยล่ะครับ 7.45-8.00 น. ไม่ค่อยมีเช้ากว่านี้นัก ตอนเช้าที่โรงเรียนเขามีกิจกรรมอะไรสักอย่างด้วยแหละ ประมาณว่าเกี่ยวกับธรรมะล่ะครับ มีปฏิบัติธรรมโดยการขยับแขนนึดหน่อยประกอบเพลง แต่ก็มีเพื่อนบางคนด้วยล่ะครับหัวเราะอะไรกัน คิกๆ อยู่ด้านข้าง ถ้าจะติ้งต๋องล่ะมั้งครับ ฮะฮะ (ไม่ได้ว่านะครับ) เสร็จแล้วก็มาไหว้พระพุทธรูปองค์ดำใหญ่ แล้วก็ทำบุญไปนินึง กับทาน้ำมันมะพร้าวบนพระพุทธรูป พร้อมด้วยขอพรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้อให้สอบ Final ผ่านไปอย่างราบรื่น ด้วยเถิด
          เมื่อเสร็จจากกิจกรรมในตอนเช้า ก็เริ่มเข้าเรียนในวิชาช่วงเช้าก็คือ ชมรม นั่นเอง ทั้งอาทิตย์ผมรู้สึกว่า ตัวผมรอคอยวันจันทร์มาตลอดเลย วันที่จะได้เรียนวิชาชมรม เป็นวิชาโปรดอันดับหนึ่งเลย ชอบก็ตรงที่ได้เล่นวอลเล่ย์บอลกับเพื่อนๆนี่แหละครับ สนุกมากๆเลย วันนี้ก็สนุกอีกเช่นเคย แต่ก็น่าเสียดายที่ได้เล่นแค่นิดเดียว แต่ก็ไม่เป็นไรไว้ เล่นกันใหม่คราวหน้า  หวังว่าคราวหน้าคงจะสนุกสุดยอดไปเลย และเรื่องราวหลังจากนั้น ก็คงเป็นเรื่องที่แปลกพิลึก ไม่สามารถเล่าได้ล่ะว่าเป็นยังไง หรือว่าไม่อยากจะเล่ากันแน่ล่ะเนอะ แต่ก็ชั่งมันเถอะ คาบบ่ายก็เรียนตามปรกติ แต่พอถึงวิชาเคมีนี่สิ น่าหลับจัง หลับเลยดีไหมนะ เพื่อนก็หลับกันหมดแล้วด้วยสิ เห็นแล้วน่าอิจฉาจังเลย และแล้วเรียนจบ ก็กลับบ้าน ไม่มีอะไรมาก ทุกอย่างมันก็เหมือนเดิม

THE END

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

The Third diary in my blog (3rd present version : 16/9/12 )

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ.2555
          วันนี้ตอนเช้าเราตื่นแต่เช้าเลยนิครับ ตั้ง 5.30 น. แน่ะ เพื่อที่จะได้รีบทำกิจกรรมตอนเช้ายังไงล่ะครับ อย่างแรกเลยก็อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย แล้วก็มาแต่งตัวให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จแล้วก็ไปนั่งรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จก็ขึ้นมาล้างหน้าแปรงฝัน แล้วก็เตรียมตัวไปเรียนพิเศษในช่วงเช้าล่ะครับ ทุกอย่างก็ปรกติดี เหมือนเช่นเคยทุกๆอาทิตย์ล่ะคับ อยากลองทำกิจกรรมใหม่ๆบ้างจังครับ แต่ก็ต้องคิดก่อนล่ะนะว่าจะทำอะไรดี ? ยกเว้นการบ้านล่ะครับ ไม่อยากจะนึกถึงเลยสิ ตอนนี้การบ้านมีอะไรบ้างน๊า คิดแล้วก็มึนตึบโอ้ๆ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมอยากชวนเพื่อนๆให้มา Negative thinking ก้วยกันจังเลย คิก คิก มาเป็นเพื่อนกันซะดีๆ

THE END 

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

The second diary in my blog (2nd Back version : 15/9/12)

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ.2555
          ตอนเช้าได้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 6.00 น. กะว่าจะตื่นแต่เช้าสักหน่อย เมื่อนาฬิกาปลุกดังขึ้นก็ลุกขึ้นมาปิดเสีงดังนั่น หืมๆ แล้วก็ชูแขนขึ้นเพื่อบิดขี้เกียจ แสงแดดยามเช้าอ่อนๆส่องลอดผ่านช่องว่างระหว่าผ้าม่านที่ปิดไม่สนิทจากทางหน้าต่างด้านนอกเข้ามาทำให้รู้สึกได้ว่า วันนั้นชั่งเป็นยามเช้าที่สดใสจากนั้นผมก็เตรียมตัวจะลุกขึ้นมา สมองสั่งให้มือหยิบผ้าห่มออก พร้อมกับเลื่อนขาไปนอกเตียงเพื่อวางเท้าลงบนพื้น แต่ไหงตัวผมมันถึงล้มลงตึง บนเตียงนอนอีกครั้งกันล่ะเนี่ย แล้วก็หลับต่อเลยจ้าตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อยาม โมงนึง (โมงนึง นี่ไม่ได้หมายความว่าบ่าย 1โมงนะคับ แต่คือ 7โมงเช้าต่างหากล่ะคับ ผมไม่นอนตื่นสายเหมื่อนใครหลายคนหรอกครับ) วันนี้มันชั่งเป็นวันดีที่แสนสดใส กะว่าตอนเช้าจะทำการบ้านสักหน่อย แต่ผมไม่ขอบอกล่ะกันว่าผมนั่งเล่นเกมครึ่งวันเต็มๆเลย เราจะขอข้ามไป นะคับ อะฮึม ส่วนตอนบ่ายน่ะรึ ทำอะไรน่ะรึ ก็ไม่ได้แตกต่างจากตอนเช้าเลย หึหึ พอตกเย็น โอ้ ทั้งวัน ไม่ได้ทำการบ้านเลย โอ้อีกนิดนึง ปรกติวันนี้จมีเรียนแต่เนื่องจาก ปะป๋ากับมะม้า ติดธุระจึงมิสามารถขับรถไปส่งได้จึงต้องขอเลื่อนไป ณ ที่นี้ด้วย ตอนกลาคืนว่างแล้วสินิ ทำการบ้านสักหน่อย ก็ดีที่ได้ทำไปบ้างรู้สึกสบายใจนิดหนึ่งนะ นั่นแหละ และแล้วก็จบไป มันช่างเป็นชีวิตประจำวันที่น่าห่วงจริงๆเลย

THE END 
The First diary in my blog (1st Back version : 14/9/12 )

          นี่คือ ไดอารี่ ในบล็อกครั้งแรกของผม(ตื่นเต้น) ไดอารี่คืออะไรน๊า? ไม่รู้สิคับคงจะคล้ายๆกับที่ๆให้เราได้เขียนสิ่งที่ได้พบเจอมาในแต่ล่ะวันล่ะมั้งขอรับ ผมเคยเขียนไดอารี่อยู่บ้างเมื่อนานมาแล้ว
ตอนม.2นี่เอง ตอนนั้นเขียนใส่สมุดด้วยล่ะ (เพราะต้องทำงานส่งอาจารย์).... :-) เกริ่นพอแล้วมาเขียนจริงๆเลยดีกว่านะขอรับ
       
วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ.2555 .......... ! จบแล้ว ฮ่า ฮ่าๆ ผมหลอกเล่น
           วันนั้นชั่งเป็นวันที่สุดแสนจะเหนื่อยใจ เรื่องอะไรน่ะรึไม่เขียนดีกว่า ตอนเช้าตื่นมา พับผ้าห่ม หยิบผ้าเช็ดตัว และเสื้อผ้า อาบน้ำ ไม่สิแปรงฝันก่อน แล้วก็อาบน้ำ เช็ดตัว ใส่เสื้อผ้า กินข้าว กินน้ำ แปรงฝัน แต่งชุดนักเรียน ดูทีวี หยิบกระเป๋าเรียน กระเป๋าเงิน พร้อมกับโทรศัพท์  แล้วก็นั่งรถไปโรงเรียน
         
           เมื่อถึงโรงเรียนตอนเช้า รู้สึกว่า จะนั่งแปลบทความภาษาอังกฤษในหนังสือให้เพื่อนกระมั้ง ต่อจากนั้นก็เข้าแถวเคารพธงชาติหน้าห้องเรียนสวดมนต์ ไม่ค่อยได้ยินเลยว่าด้านล่างเขาร้องเพลงชาติถึงไหนแล้วตามไม่ทันทุกทีเลย เขาห้องมาก็ช่วงเช้าคาบแรก ของอาจารย์ภาษาต่างประเทศ เพื่อนๆหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "คาบนี้แหละ...จะปั่นงาน" มันก็จริง แต่ในวันนี้อาจารย์ท่านรู้ทันพวกเรา ใครที่เอางานขึ้นมาทำโดนยึดไปหลายลสยเลยคับ แต่ก็สู้บางคนไม่ได้ ความมุ่งมั่นตั้งใจ หนีจากหน้าห้องไปทำงานหลังห้อง ฮะฮะ ตลกดี จะว่าแต่คนอื่นไม่ได้ด้วยสิ เพราะตัวผมเองก็แอบทำงานเหมือนกันครึ่งวันเช้าก็ไม่มีอะไรมากผ่านไปยังสบาย สอบคณิตศาสตร์ก็ทำได้อย่างชิลๆ (เพราะโชคดีได้ข้อง่าย)แต่ก็น่าสงสารเพื่อนด้านหลังๆจะได้ข้อยากหรือเปล่าน๊า  และแล้วครึ่งวันเช้าก็ผ่านไป
       
           เมื่อคาบเรียนตอนบ่ายมาถึง วิชาที่เรียนคือ วิทยาศาสตร์ ชั่งเป็นคาบเรียนที่ เหมือนสวรรค์จริงๆ อาจารย์เหมือนกับนางฟ้าร้องเพลงกล่อมเด็กเลย หึหึ แล้วทุกคนก็หลับกัน Oh heaven 


THE END

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

ทำไมเจ้าตูบตัวผู้ต้องยกขาฉี่


เชื่อว่าเจ้าของสุนัขหลายคนคงต้องมีคำถามในใจว่า ทำไมท่าฉี่ของสุนัขตัวผู้และตัวเมียจึงแตกต่างกัน สุนัขตัวผู้ชอบยกขาฉี่มากกว่านั่งยองๆ ฉี่เหมือนเช่นตัวเมีย นั่นก็เพื่อทำให้กลิ่นของฉี่ที่จะบ่งบอกถึงอาณาเขต ยังคงใหม่สดมากกว่ากลิ่นฉี่ที่ถูกปล่อยอยู่ตามพื้น เพราะจะโดนเหยียบไปเหยียบมา ไม่เหมือนตามกำแพง หรือเสาไฟฟ้าที่ไม่มีใครมายุ่งด้วย และการยกขาฉี่ยังทำให้กลิ่นนั้นอยู่สูงขึ้นมาถึงระดับจมูกของสุนัขตัวอื่นๆเพื่อบอกให้รู้ว่า แถวนี้น่ะมีเจ้าถิ่นคุมอยู่แล้วนะ
ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการฝากข้อความไว้ให้ตัวเอง เพื่อที่เวลาไปไหนมาไหนจะได้ไม่หลงทาง แถมยังบอกเป็นนัยให้สุนัขตัวอื่นๆ รู้ถึงสภาพทางเพศของเขา และขอบเขตอาณาจักรที่ครอบครองอยู่ นั่นคือ ทำให้สุนัขตัวเมียรับรู้ว่ามีตัวผู้เนื้อหอมอาศัยอยู่แถวๆนี้ หรืออาจทำให้สุนัขร่อนเร่ไม่กล้าเข้ามาแหยมก็มีสิทธิเหมือนกัน

กุหลาบในความหมายเชิงสัญลักษณ์

กุหลาบขาว
กุหลาบเป็นดอกไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ราชินีแห่งดอกไม้" เกิดขึ้นและมีมาก่อน
ยุคประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีการพบเศษฟอลซิลกุหลาบ และยังมีหลักฐานว่ากุหลาบ
ถูกปลูกขึ้นเป็นครั้งแรก ในดินแดนแถบเอเซียมานานกว่า 5,000 ปี และยังเป็น
ที่รู้จักทั่วยุโรปในยุคจักรวรรดิโรมาในฐานะดอกไม้ที่ถูกนำมาใช้
เป็นเครื่องประดับของมนุษย์
มาเปรียบกับความรักความงาม และเกี่ยวข้องกับวีนัส เทพีแห่งความลุ่มหลง
และเรื่องรักๆ ใคร่ๆ
ลางร้ายที่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้า และกุหลาบแดง ยังเป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูล
แลงคาสเตอร์ (Lancaster) และดอกไม้ของเทพเจ้าเอรอส (Eros) หรือคิวปิด
(Cupid) ส่วนกุหลาบขาวเป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลยอร์ก (York)
และเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ดังนั้นจึงมักถูกนำไปวางไว้
บนหลุมศพของเด็กๆ


ด้วยรูปร่างลักษณะและกลิ่นที่ล้ำเลิศเหนือดอกไม้นานาชนิด จึงมีการนำดอกไม้นี้
ในอังกฤษมีความเชื่อว่า หากตัดกุหลาบแดงมาแล้วกลีบหลุดร่วง นั่นหมายถึง

กุหลาบแดง


ในชนพื้นเมืองทวีปอเมริกานั้น ถือว่ากุหลาบขาวเป็นสัญลักษณ์ของความปลอดภัย
และความสุข โดยระหว่างพิธีแต่งงานของคนในเผ่า ยังใช้สวมหรือประดับบนศรีษะ
ไม่เพียงเท่านั้น กุหลาบขาวยังกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของพระแม่มารีอาอีกด้วย
ในส่วนของกุหลาบสีต่างๆ ยังบ่งบอกความหมายอีกหลายอย่าง ดังนี้
   กุหลาบสีแดง หมายถึง ฉันรักเธอ แต่ถ้าเป็นสีแดงเข้ม จะหมายถึงความงดงาม ชวนให้หลงใหล
   กุหลาบขาว หมายถึง ความรักที่มีแต่ความบริสุทธิ์ใจ และความรักที่มีแต่ความสุขสมหวัง
   กุหลาบเหลือง หมายถึง ความสุขและความยินดี แต่ในอดีตหมายถึง ความรักที่ลดน้อยลง และความไม่ซื่อสัตย์ต่อความรัก
   กุหลาบแดงอมเหลือง หมายถึง ความปรารถนา
   กุหลาบสีส้ม หมายถึง เสน่ห์ตรึงใจ และความรักที่เร่าร้อน
   กุหลาบบม่วง หมายถึง รักแรกพบ
   กุหลาบชมพูอ่อน หมายถึง ความอ่อนหวาน นุ่มนวล อ่อนโยน และการชื่นชมบูชา
   กุหลาบชมพูเข้ม หมายถึง คำขอบคุณ
   กุหลาบสีอ่อน หมายถึง มิตรภาพ
หากต้องการใช้กุหลาบสีต่างๆ ในการบอกความหมาย ควรระวังการไม่รู้ความหมาย หรือตีความคลาดเคลื่อนของผู้รับด้วย

ที่มา : http://www.lib.ru.ac.th/miscell/rose-in-symbol.html

มารู้จักกับ FBI (เอฟบีไอ)


ดูเท่ไหม?.. เวลาที่ตำรวจในหนังฮอลลีวูดพูดว่า.. "หยุดอย่าขยับนี่เจ้าหน้าที่ FBI" เจ้าหน้าที่ FBI ก็คือตำรวจประเภทหนึ่ง แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ ว่าเจ้าหน้าที่ FBIคือตำรวจอะไร?
       
          คดีอาญาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก
ในปี ค.ศ. 1908  ชื่อเดิมคือ Bureau of Investigation ในปี ค.ศ. 1924
ได้มีการปรับปรุงหน่วยงานขึ้นใหม่ และได้กำหนดนโยบาย
ของหน่วยงานที่ชัดเจนขึ้น และในปี ค.ศ. 1935 เปลี่ยนชื่อเป็น
Federal Bureauof Investigation (ชื่อเดียวกับปัจจุบัน)
ในปี ค.ศ. 1924 ได้มีการปรับปรุงหน่วยงานขึ้นใหม่ และได้กำหนดนโยบาย
ของหน่วยงานที่ชัดเจนขึ้น และในปี ค.ศ. 1935 เปลี่ยนชื่อเป็น Federal Bureau
of In vestigation (ซื่อเดียวกับปัจจุบัน)
สำนักงานอยู่ตามเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญอีก 58 แห่ง ทั่วสหรัฐอเมริกา
และเปอร์โตริโก
กฏหมายของรัฐบาลกลาง การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย เป็นต้น
ระบบรายงานอาชญากรรม (Criminal Report System) ซึ่งเน้นการนำหลัก
วิทยาศาสตร์ มาใช้ในการสืบสวน สอบสวน และหาพยานหลักฐาน นอกจากนั้น ยัง
ตามความเจริญก้าวหน้าของโลกปัจจุบัน เพราะ..
เมื่อผู้ก่อการร้ายใช้วิธีใหม่ๆ ในการก่อความไม่สงบ
FBI ก็ต้องพัฒนาให้ทันเพื่อการต่อกร จึงนับว่า
เป็นองค์กรที่ต้องเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อความสงบสุขของประชาชนสหรัฐอเมริกา

             FBI นั้นย่อมาจาก Federal Bureau of Investigation 
เป็นหน่วยสืบสวนมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. (Washington, D.C.) 
และยังมีหน้าที่หลัก คือ สอบสวน และสืบสวนคดีของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เช่น การละเมิด
เอฟบีไอมีหน่วยรวบรวมรูปพรรณบุคคล (Identification Division) และได้ตั้ง
มีห้องปฏิบัติการทางด้านเคมีเพื่อใช้ในการพิสูจน์หลักฐานประกอบการสืบสวนอีกด้วย
ต่อมา ขอบเขตอำนาจของเอฟบีไอได้ขยายมากขึ้น

ที่มา : http://www.lib.ru.ac.th/miscell/fbi.html